ประวัติสำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด

ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการสภากาชาดไทย ครั้งที่ 345 วันที่ 2 มิถุนายน 2565 ได้อนุมัติให้บูรณาการสำนักงานยุวกาชาด และ สำนักงานอาสากาชาด
รวมเป็นสำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด โดยมีการปรับโครงสร้างการแบ่งส่วนงานและโครงสร้างอัตรากำลังใหม่
และกำหนดให้สำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด เป็นศูนย์กลางของการบริหารจัดการอาสาสมัครของสภากาชาดไทย
เพื่อก้าวไปสู่ One Red Cross One Volunteer ภายใต้การมีฐานข้อมูลและระบบอาสาสมัครที่เป็นระบบเดียวกัน
มีความเข้มแข็งและประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนภารกิจของสภากาชาดไทย

สำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานตามภารกิจของสำนักงานที่สอดคล้องกับนโยบายของสภากาชาดไทย
เพื่อให้ประชาชน ผู้ด้อยโอกาส
กลุ่มเปราะบางทางสังคมและผู้ประสบภัยพิบัติ  มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยการพัฒนาระบบอาสาสมัครและการดำเนินงานของยุวกาชาด
และอาสาสมัครกาชาดให้ดียิ่งขึ้นสืบไปสำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด เป็นหน่วยงานที่สร้างและพัฒนา “อาสาสมัคร” ให้เป็น “อาสาสมัครที่พึ่งพาได้”
ให้แก่สภากาชาดไทย
ตั้งแต่อาสาสมัครวัยเยาวชนจนถึงวัยเกษียณ เป็นการรักษาและสืบทอดความเป็น “จิตอาสา” ตลอดชีวิตของอาสาสมัคร
นอกจากนี้เมื่อตระหนักถึงพลังของอาสาสมัคร ทั้งในด้านความคิด ความสร้างสรรค์ ความรู้สมัยใหม่ ความสามารถทางเทคโนโลยี
การปรับตัวและการเปิดรับกับความเป็นสากล นับว่า สำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาดมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่ายิ่ง
ในการขับเคลื่อนงานอาสาสมัครให้แก่สภากาชาดไทย ในระยะยาวต่อไปได้ ซึ่งที่ผ่านมา

โดยแบ่งส่วนงานออกเป็น 4 ฝ่าย ดังนี้

  1. ฝ่ายจัดหาและจัดสรรยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด
  2. ฝ่ายพัฒนายุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด
  3. ฝ่ายสนับสนุนและสื่อสารสัมพันธ์ ยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด
  4. ฝ่ายบริหารงานทั่วไป

สำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด ส่งเสริมการทำงานในการนำพลังของอาสาสมัครมาใช้ให้ได้อย่างเต็มที่
เพื่อให้เกิดการการขับเคลื่อนที่สอดประสานกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งจะสามารถสร้างความยั่งยืนของงาน “จิตอาสา”
ให้แก่สังคมและชุมชนผ่านคุณค่าของความเป็น “จิตอาสาสภากาชาดไทย” สู่การเป็น “อาสาสมัครกาชาด”

ประวัติสำนักงานอาสากาชาด

พ.ศ.2483 จัดตั้งกองอาสากาชาด

28 พฤษภาคม 2483 ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการสภากาชาดไทย ให้จัดตั้ง “กองอาสากาชาด” ขึ้น โดยมีหน้าที่อบรมสมาชิกอาสากาชาดไว้เพื่อให้ทำการอุปการสงเคราะห์โดยทันท่วงที และมีประสิทธิภาพในเวลาฉุกเฉินแห่งสงคราม หรือเหตุการณ์สาธารณภัยพินาศ และช่วยเป็นกำลังดำเนินงานของสภากาชาดไทยในเวลาปกติ

1 สิงหาคม 2483 เปิดรับสมัครบุคคลเข้าเป็นอาสากาชาดครั้งแรก
จึงกำหนดให้ 1 สิงหาคม เป็นวันสถาปนาของกองอาสากาชาด

พ.ศ.2484 สงครามอินโดจีน
ช่วงสงครามอินโดจีน (กรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเรื่องดินแดนด้านอินโดจีน) และสงครามมหาเอเชียบูรพา กองอาสากาชาดได้ส่งอาสากาชาดออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยงานการพยาบาลและประกอบอาหารเลี้ยงทหารผู้บาดเจ็บจากราชการสนามตามโรงพยาบาลต่าง ๆ 20 ตุลาคม 2484 จัดตั้ง สโมสรอาสากาชาด เพื่อให้สมาชิกอาสากาชาดได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้และทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน โดยนายโอวบุ้นโฮ้ว สมาชิกกิติมศักดิ์สภากาชาดไทย ได้บริจาคเงินตั้งต้นในการสร้างตึกสโมสรอาสากาชาด
พ.ศ.2508 องค์สภานายิกา

4 พฤศจิกายน 2508 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในงานวันฉลองวันสถาปนากองอาสากาชาด ครบ 25 ปี พระราชทานประกาศนียบัตรแก่อาสากาชาด และทอดพระเนตรการแสดงของอาสากาชาด ในโอกาสนี้ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี   โดยเสด็จในการนี้ด้วย
พ.ศ.2513 พระราชทานนามสุทธาสา

23 มีนาคม 2513 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดตึกสุทธาสา กองอาสา

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอุดลยเดช พระบรมราชูปถัมภก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อตึกอำนวยการกองอาสากาชาดนี้ว่า สุทธาสาซึ่งมีความหมายว่า อาสาด้วยความบริสุทธิ์ใจ
พ.ศ.2521 องค์อุปนายิกา
11 ธันวาคม 2521 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินทางเปิดงาน “วันสุทธาสา” กองอาสากาชาด และพระราชทานประกาศนียบัตรแก่สมาชิกอาสากาชาดที่สำเร็จการอบรม ณ ตึกสุทธาสา กองอาสากาชาด
พ.ศ.2537 องค์อุปถัมภิกา
5 พฤศจิกายน 2537 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ องค์อุปถัมภิกาโครงการอาสากาชาดฟื้นฟูสุขภาพถึงบ้าน (Home Care) เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด อาสากาชาดเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้านณ อาคาร ภปร ชั้น 18 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยเป็นโครงการร่วมมือระหว่างกองอาสากาชาด กับแผนกพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จัดขึ้นเพื่อติดตามดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องที่บ้านภายหลังจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล
พ.ศ.2539 สำนักงานอาสากาชาด
22 มิถุนายน 2539 โดยอนุมัติที่ประชุมคณะกรรมการสภากาชาดไทย มีมติให้เปลี่ยนชื่อ กองอาสากาชาด
เป็น สำนักงานอาสากาชาด
พ.ศ.2544 สายธารแห่งน้ำพระทัย

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จทรงเยี่ยมผู้ป่วยใน อาสากาชาดฟื้นฟูสุขภาพกายและจิตผู้ติดเชื้อเอดส์” พร้อมประทานสิ่งของ คำแนะนำ และกำลังใจแก่ผู้ป่วย
พ.ศ.2563 "80 ปี อาสากาชาด"

1 สิงหาคม 2563 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิรพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในงาน “วันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานอาสากาชาด ครบ 80 ปี” ทรงปล่อยคาราวานเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้าน จำนวน 10 คัน  ในโครงการอาสากาชาดฟื้นฟูสุขภาพถึงบ้าน

ประวัติสำนักงานยุวกาชาด

พ.ศ.2465 กำเนิดอนุสภากาชาดสยาม

27 มกราคม 2465 กิจการอนุสภากาชาดสยามถือกำเนิดโดยพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์กรมพระนครสวรรค์วรพินิต อุปนายกผู้อำนวยการสภากาชาดสยาม
และ เมื่อวันที่  24 มีนาคม 2465 ได้มีการเปิดหมู่อนุสภากาชาดเป็นแห่งแรกของประเทศไทยขึ้น ณ โรงเรียนราชินี
พ.ศ.2485 กองอนุกาชาด
การดำเนินกิจการของอนุกาชาด ได้เจริญเติบโตตามลำดับ จึงได้เปลี่ยนชื่อ จากกองอนุสภากาชาดสยาม  เป็น กองอนุกาชาด
พ.ศ.2521 กองยุวกาชาด
16 มีนาคม 2521 กองอนุกาชาดได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองยุวกาชาด  และขยายอายุจาก – 18 ปี เป็น – 25 ปี จึงรวมถึงนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่เรียนอยู่ในระดับ อาชีวศึกษา เตรียมอุดมศึกษา ทั้งในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา
พ.ศ.2522 เราคือยุวกาชาด

ได้มีการปรับเปลี่ยนหัวหน้ากอง เป็น ผู้อำนวยการกองยุวกาชาด กรมพลศึกษา และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองยุวกาชาดสภากาชาดไทย และแบ่งยุวกาชาด ออกเป็น 2 ประเภท คือ ยุวกาชาดในสถานศึกษา และ ยุวกาชาดนอกโรงเรียน ได้มีการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบยุวกาชาดจาก เสื้อคอปกแขนยาวสีขาว ผ้าผูกคอสีน้ำเงิน และกระโปรงสีน้ำเงิน มาเป็น เครื่องแบบยุวกาชาดสีฟ้าอมเทาที่ได้สวมใส่อยู่ในปัจจุบัน

พ.ศ.2540 สำนักงานยุวกาชาด
กองยุวกาชาด สภากาชาดไทย  เปลี่ยนชื่อเป็น  สำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย 
พ.ศ.2543 ชมรมอาสายุวกาชาด
ชมรมอาสายุวกาชาดจัดตั้งครั้งแรก  คือ  โรงเรียนพรตพิทยพยัต  เรียกอาสาสมัครว่า “อาสายุวกาชาด” 
พ.ศ. 2546 คืนถิ่นสภากาชาดไทย

รัฐบาลได้ปฏิรูประบบราชการโดยการปรับปรุงโครงสร้าง ของกระทรวง ทบวง กรมใหม่ ทำให้สำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน ย้ายที่ทำการไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย ได้ย้ายที่ทำการกลับมาอยู่ที่ ณ ตึกจิรกิติ สภากาชาดไทย โดยได้แบ่งการบริหารแบบชัดเจน โดยกระทรวงศึกษาธิการจะดูแลเยาวชนในระบบการศึกษา อายุ 7 – 18  ปี ส่วนสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย  ดูแลเยาวชนในและนอกระบบการศึกษารวมถึงระดับอุดมศึกษาอายุ 15 25 ปี

โดยสภากาชาดไทยแต่งตั้ง รศ. นพ.พินิจ  กุลละวณิชย์ เป็นผู้อำนวยการที่เป็นบุคลากรของสภากาชาดไทยคนแรกของสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย

พ.ศ.2546 - 2556 หนึ่งอำเภอ หนึ่งชมรม
เพื่อให้เครือข่ายอาสายุวกาชาดได้มีการขยายครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย จึงได้เกิดโครงการ  อำเภอ ชมรมขึ้น เพื่อให้อาสายุวกาชาดเป็นที่พึ่งพาได้ของประชาชน
พ.ศ.2557 รางวัลพระราชทาน
กิจการยุวกาชาดและอาสายุวกาชาดมีการขยายเครือข่ายครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย มีความเข้มแข็ง  เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติเครือข่ายอาสายุวกาชาด จึงได้เกิด “รางวัลอาสายุวกาชาดดีเด่น” โล่พระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และมีการขยายอายุของอาสายุวกาชาด จาก 15 – 25  ปี เป็น  15 – 30 ปี